Paradox !




เริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิประมาณปี2537 ที่ห้องคอมพิวเตอร์ของคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ในชั่วโมงคอมพิวเตอร์ ต้ากับสองซึ่งขณะนั้นเรียนปี1อยู่ด้วยกันที่ครุศิลป์ จุฬาฯ ต้าเกิดความคิดที่จะตั้งวงดนตรีเอาไว้เล่นตามงานต่างๆของคณะ พอดีเห็นสองกำลังนั่งฟังซาวด์อเบาท์ (เครื่องเล่นเทปสมัยก่อน) เลยเห็นว่าสองน่าจะสนใจดนตรีจึงเริ่มคุยกัน ซึ่งสองในตอนนั้นก็เพิ่งเล่นเบสได้ไม่นาน แต่ก็สนใจจะร่วมด้วย ดังนั้นทั้งสองคนก็เลยเริ่มมองหาสมาชิก เพื่อมาเสริมตำแหน่งให้ครบวง

ในช่วงแรกนั้น เวลาไปห้องซ้อมก็มักจะซ้อมดนตรีกันเพียงแค่ 2 คน โดยต้าเล่น สองร้อง และช่วงนี้ก็ได้เริ่มแต่งเพลงเอาไว้จำนวนหนึ่ง.. ซึ่งเพลงแรกที่ทั้งคู่ร่วมกันแต่งก็คือ "โรงหนังเก่า"

หลังจากตระเวนหามือกลองอยู่นานแสนนาน และแล้วงานลอยกระทงที่มหาลัยก็มาถึง ทั้งสองคนซึ่งเป็นแฟนเพลงวงโมเดิร์นด็อกก็ได้ตามมาดูคอนเสิร์ต ซึ่งจัดขึ้นที่คณะนิเทศศาสตร์ ก่อนที่วงโมเดิร์นด็อกจะขึ้นเล่นก็มีวงเปิดของคณะฯมาเล่นประกอบ ต้าสังเกตเห็นมือกลองตีดีน่าสนใจจึงทาบทามให้มาเล่นด้วย คนๆนั้นเป็นรุ่นพี่ปี 3 ชื่อ พี่โน้ต

จากนั้นทั้ง3คนก็ก่อตั้งวงดนตรี3ชิ้นชื่อ "หอยจ๊อ" ขึ้น โดยการรวมตัวกันของ ต้า สอง พี่โน้ต และได้เหล่าเพื่อนๆมาช่วยร้องนำ (ตอนนั้นต้าเล่นกีต้าร์อย่างเดียว) หลังจากเล่นมาได้ประมาณ1ปี ก็เริ่มอยากทำเทปขายเพื่อนๆ จึงเข้าห้องอัด อัดเพลงเพื่อทำอัลบั้มกันเอง ตอนนั้นด้วยความที่ไม่มีใครเป็นนักร้องที่แท้จริง ทางวงจึงลงความเห็นว่าให้ต้าทำหน้าที่นักร้องนำตั้งแต่นั้นมา

ต่อมาหอยจ๊อก็พบกับปัญหาที่นักดนตรีส่วนใหญ่เจอ คือ คุณภาพเสียงที่อัดมาแย่และไม่มีทุน ประกอบกับมีรุ่นพี่ที่คณะแนะนำให้นำเพลงไปเสนอค่ายเทป ทำให้ทางวงจึงเดินเข้าไปเสนอเดโม กับค่าย Easternsky Records และโชคดีได้ร่วมงานกับค่ายตั้งแต่นั้นมา แต่เพราะความที่ชื่อหอยจ๊อ ฟังแล้วไม่น่าจะใช้ได้นาน ทางค่ายจึงแนะนำให้ลองหาชื่อใหม่ พอดีสองไปเปิดตำราเกี่ยวกับ UFO พบศัพท์แปลกๆว่า "PARADOX" ซึ่งแปลว่าวัตถุประหลาด, คำที่มีความหมายตรงกันข้ามกับความรู้สึก, อะไรที่ขัดแย้งในตัวเอง ซึ่งน่าจะเหมาะกับนิสัยของสมาชิกในวงที่ดูภายนอกเรียบร้อยแต่จริงๆสนุกสนาน โดยเฉพาะเวลาอยู่บนเวที และในที่สุด Paradox ก็ได้คลอดอัลบั้มแรกในปี2539 ใช้ชื่ออัลบั้มว่า... Lunatic Planet (ดวงดาวบ้าๆบวมๆ) โดยได้พี่แก็ป ทีโบนมาร่วมงานในตำแหน่งโปรดิวเซอร์ ซึ่งเพลงเด่นๆในอัลบั้มนี้ ได้แก่ นักมายากล ไก่ โรตีที่รัก เสือไบ

และในช่วงนี้เอง ทางวงได้ บิ๊ก มาช่วยเล่นกีต้าร์ตามคอนเสิร์ต และได้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกวงในเวลาต่อมา แต่าไม่นาน ค่ายEasternsky Records ก็ได้ปิดตัวลง พร้อมๆกับโน้ตที่กำลังจะแต่งงานและเดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศสหรัฐอเมริกา

เมื่อค่ายที่สังกัดอยู่ปิดตัวลงไปแล้ว ต้าจึงตัดสินใจที่จะทำอัลบั้มกันเองโดยใช้ชื่อค่ายว่า Tata Recordsและออกผลงานใต้ดินในชื่ออัลบั้ม "แมลงวันเสปน" (ของแท้ต้องพิมพ์ผิด) และอัลบั้ม Paradox & My Friendsซึ่งเป็นอัลบั้มที่มีเพื่อนๆในกลุ่มมาร่วมทำเพลงด้วยกัน เช่น วงวีนัส และ ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์

ในช่วงที่เปลี่ยนจากยุคอัลเทอร์เนทีฟมาสู่ยุคอินดี้ ป๋าเต็ด (ยุทธนา บุญอ้อม) ก็ได้ชักชวนวงให้เข้ามาอยู่ในสังกัดของ Genie Records ทำให้Paradoxมีโอกาสทำเพลงเพื่อรวมอยู่ในอัลบั้ม Intro 2000 ร่วมกับศิลปินอื่น ต้าจึงได้ชักชวนโจอี้ ซึ่งเป็นญาติผู้น้องเข้ามาเป็นมือกลองของวง พร้อมทั้งชวนเก่งและอ๊อฟซึ่งเป็นเพื่อนที่มีส่วนในการทำเพลงด้วยกันมา ตั้งแต่แรก มาร่วมเป็นคอรัสและเติมสีสันให้กับทางวงอย่างเต็มตัว

ไม่นานหลังจากอัลบั้ม Intro 2000 Pardoxก็มีโอกาสได้ทำอัลบั้มเต็มของตัวเองอีกครั้งในชื่อชุด Summer โดยมีเพลงฮิตอย่าง น้องเปิ้ล Love ฤดูร้อน มีแต่เธอ และ ร.ด.Dance ซึ่งถือเป็นอัลบั้มที่ทำให้ชื่อ Paradox กลับมารู้จักในกลุ่มนักฟังเพลงอีกครั้ง และในปีเดียวกันนั้นเอง ต้าก็ได้ทำอัลบั้มใต้ดินชุดสุดท้ายของวงขึ้นมาในชื่อชุด แค้นผีนรก

จากความแรงเกินคาดของอัลบั้ม Summer ทำให้ Paradox ได้มีโอกาสออกอัลบั้มพิเศษชื่อ On The Beach ที่เอาเพลงเก่าจาก Lunatic Planet และ Summer มาร้องใหม่ และมีศิลปินรับเชิญมาเรียบเรียงดนตรีให้ในแบบอคูสติก และเพิ่มเพลงใหม่ขึ้นมา2เพลง คือเพลง ดาว และ สงสัย

หลังจากนั้นอีก1ปี Paradoxก็ออกอัลบั้มกับGenie Recordsอีกครั้งในชื่อ On The Rainbow ซึ่งเป็นอัลบั้มที่เน้นฝีมือด้านดนตรีของ Paradox ให้เด่นชัดมากขึ้น เพลงเด่นๆในอัลบั้มนี้คือ รุ้ง กลิ่นโรงพยาบาล เศษ และ กวีบทเก่า ที่นำบทเพลงของนูโวกลับมาเรียบเรียงใหม่ในสไตล์ Paradox

และแล้ว.. ในที่สุดFat Radio ก็ได้จัดให้มีคอนเสิร์ตใหญ่ของParadoxขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 28 มิถุนายน 2546 ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก ในชื่อ Fat Live 4 : The Paradox Circus พร้อมแขกรับเชิญคือ ก้อย Saturday Seiko, เล็ก สุรชัย กิจเกษมสิน, ผิง พิมพาภรณ์ และ สามสาวจากวง H และในปีเดียวกันนี้ พาราด็อกซ์ก็ได้ออกอัลบั้มชื่อ Free Style ที่มีเพลงดังอย่าง Sexy ทาส บอลลูน พร้อมทั้งนำเพลงนักมายากล จากอัลบั้ม Lunatic Planet กลับมาทำใหม่อีกครั้ง

หลังจากอัลบั้ม Free Style เพียงไม่กี่เดือน Paradoxก็มีผลงานพิเศษที่ร่วมกับศิลปินอื่นอีกครั้งในชื่อ Little Rock Project ซึ่งเป็นการนำเพลงของวงในตำนานอย่าง ไมโคร กลับมาทำใหม่ตามแบบฉบับของแต่ละวงในอัลบั้มนี้ ซึ่งพาราด็อกซ์มีผลงานอยู่2เพลงคือ มันก็ยังงง งง และ รักคุณเข้าแล้ว และได้มีคอนเสิร์ตที่ชื่อ Rock Size S เกิดขึ้นที่ Impact Arena เมืองทองธานี

เมื่ออัลบั้มเก่าๆของพาราด็อกซ์เริ่มหายาก จึงได้มีการออกอัลบั้มรวมชื่อ Hit Me ขึ้น ซึ่งเป็นผลงานรวมเพลงของพาราด็อกซ์ตั้งแต่อัลบั้ม Summer เป็นต้นมา และต่อมาพาราด็อกซ์ก็ได้มีโอกาสทำเพลงประกอบภาพยนตร์ วัยอลวน4 โดยนำเพลงดังในอดีต อย่าง เธอที่รัก ของคุณชัยรัตน์ เทียบเทียม กลับมาเรียบเรียงใหม่ รวมถึงได้นำเพลง Let's Go Rider Kick ซึ่งเป็นเพลงเปิดตัวของ ไอ้มดแดง V.1 มาเรียบเรียงใหม่เพื่อใช้สำหรับงาน ไอ้มดแดง Live Show In Bangkok อีกด้วย

หลังจากนั้น Paradoxก็ได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตอย่างต่อเนื่อง จนห่างหายจากอัลบั้มเต็มไปถึง 3 ปี และในปี2549 Paradoxก็ได้กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้ม X (10 Years After) ซึ่งเป็นผลงานครบรอบ 10 ปีของทางวงนับตั้งแต่ออกอัลบั้มLunatic Planet ซึ่งอัลบั้มนี้ได้มีการใส่โบนัสแทร็คถึง12แทร็ค รวมกับเพลงปกติอีก10แทร็ค ในอัลบั้มนี้จึงมีถึง22เพลง!! โดยเพลงโปรโมตในอัลบั้มนี้คือเพลง ผงาดง้ำค้ำโลก และ ส่งรักส่งยิ้ม ในขณะที่เพลงโบนัสแทร็คหลอนๆอย่าง นั่งยาง ก็เป็นที่พูดถึงกันมากในเรื่องของความหลอนและโหดทั้งด้านเนื้อเพลงและดนตรี

เดือนกุมภาพันธ์ปีต่อมา Paradoxก็ได้ออกอัลบั้มพิเศษในชื่อว่า Paradox In Paradise ที่มีคอนเซปท์เหมือนอัลบั้ม On The Beach คือเป็นเป็นการนำเพลงตั้งแต่อัลบั้ม On The Rainbow มาร้องใหม่ และมีศิลปินรับเชิญมาเรียบเรียงดนตรีให้ พร้อมด้วยเพลงใหม่ที่ชื่อใครสักคน ซึ่งอัลบั้มนี้มีการจัดทำในรูปแบบของ Special Edition ปกยีนนส์ โดยเพิ่ม VCD และมีเพลงพิเศษคือ สิงห์รถบรรทุก

หลังจากอัลบั้มX (10 Years After) Paradox ได้มีโอกาสนำเพลงเก่ามาเรียบเรียงใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งเพลงจิ๊บร.ด.ของ จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้วเพื่อประกอบหนังเรื่องเขาชนไก่ เพลงกอดฉันไว้ ของจ๊อบ บรรจบ เพื่อประกอบหนังเรื่องสามชุก รวมถึงเพลงเพียงชายคนนี้(ไม่ใช่ผู้วิเศษ) ของเพชร โอสถานุเคราะห์ ที่อยู่ในอัลบั้มพิเศษ Play Project นอกจากนี้ยังได้ปล่อยเพลงใหม่อย่าง เรดิโอ ในปี 2551 และ รสชาติแห่งความรัก ในปี2552

แต่เนื่องจากทัวร์คอนเสิร์ตที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่มีโอกาสได้ทำเพลงให้ครบทั้งอัลบั้ม ทางค่ายจึงได้ทำอัลบั้มรวมฮิตอีกครั้งชื่อว่า Parade โดยรวมเพลงฮิตจากอัลบั้มเก่าๆ และเพิ่มเพลงใหม่คือ เรดิโอ รสชาติแห่งความรัก กอดฉันไว้ เพียงชายคนนี้(ไม่ใช่ผู้วิเศษ) และเพลงทะเลสีทำ ที่ต้าไปร่วมร้องในอัลบั้มUrban Lullaby ของลุลา

และในช่วงปลายปี2553 Paradoxก็เรียกเสียงฮือฮาอีกครั้ง ด้วยการปล่อยเพลงใหม่ล่าสุด หรรษาราตรี ที่มีเนื้อเพลงและการเรียบเรียงที่ไม่เหมือนใคร ยิ่งกว่านั้น ทางวงยังทำการรวบรวมคลิปต่างๆทั้งที่ถ่ายกันเอง และแฟนเพลงส่งให้ นำมารวมกันตัดต่อออกมาเป็นMusic Videoที่ยิ่งทำให้เพลงนี้ถูกพูดถึงกันในวงกว้างขึ้นไปอีก

แม้Paradoxจะมีอายุถึง15ปีแล้ว แต่กระแสความแรงของParadoxกลับไม่เคยลดถอยลงไปเลย ล่าสุดParadoxได้มีโอกาสทำเพลงประกอบภาพยนต์ถึง2เรื่องพร้อมกันในเดือนเดียว คือเรื่องรักมันใหญ่มาก ที่มีการนำเพลงLove ฤดูร้อน Sexy สามมิติ มาทำใหม่ และอีกเรื่องคือ Suckseed ห่วยขั้นเทพ ที่มีการนำเพลงฤดูร้อน และมีแต่เธอมาประกอบ รวมถึงเพลงใหม่ที่แต่งขึ้นมาให้กับตัวเอกของเรื่องอย่าง ซักซี๊ดนึง ก็ได้กลายเป็นเพลงฮิตล่าสุดในกลุ่มวัยรุ่นไปแล้ว

เนื่องจากParadox มีโอกาสทำเพลงประกอบภาพยนตร์หลายเรื่อง ทางวงจึงถือโอกาสทำอัลบั้มพิเศษอีกครั้งในชื่อ The Love Scene เป็นการนำเพลงที่ใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่องรักมันใหญ่มาก มาเรียบเรียงใหม่ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และมีศิลปินรับเชิญร่วมกันนำเพลงมาตีความใหม่ออกมาในรูปแบบของแต่ละคน รวมถึงนำเพลงเธอที่รัก กอดฉันไว้ และจิ๊บร.ด. มารวมไว้ในอัลบั้มนี้ด้วย

และในปีนี้ Paradox กำลังเตรียมที่จะปล่อยอัลบั้มเต็มออกมาอีก2ชุด ซึ่งแบ่งเป็นอัลบั้มแนวเพราะๆสนุกๆในช่วงกลางปี และ อัลบั้มเพลงแนวแปลกๆ ในช่วงปลายปี ก่อนจะก้าวเข้าสู่ปีที่16ต่อไป..

 
ผลงาน
อัลบั้มใต้ดิน
  • 2540 – แมลงวันเสปน
  • 2541 - Paradox & My Friends
  • 2543 - แค้นผีนรก

อัลบั้มสตูดิโอ
  • 2539 - Lunatic Planet
  • 2543 - Summer
  • 2544- On The Beach
  • 2545 – On The Rainbow
  • 2546 – Freestyle
  • 2547 – Hit Me
  • 2549 – X (10 Years After)
  • 2550 – In Paradise
  • 2552 – Parade
  • 2554 – The Love Scene



ผลงานเขียน - บันทึกลึกลับ Paradox X
  • เขียนโดย อิทธิพงศ์ กฤดากร ณ อยุธยา (ต้า) นักร้องนำ
  • วางจำหน่ายครั้งแรกในงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม 2550 - 10 เมษายน 2550 ที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
  • เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 เมษายน 2550 ณ ร้านบีทูเอส สาขาเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า ในงานที่ชื่อว่า "10 ปีที่ผ่านมา และ 10เพลง ที่ผ่านไป"
  • ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 มีการเพิ่มรูปภาพในหน้า 108 มีการปรับเปลี่ยนการจัดวางหน้า เพิ่มข้อมูลที่ขาดหาย และแก้คำผิด

รางวัล
  • รางวัลรถติดคนติด (เพลง ขอ จากอัลบั้ม Freestyle) : FAT AWARDS #2 (พ.ศ. 2547)
  • รางวัลท่อนฮุคเฆี่ยนใจ (เพลง ขอ จากอัลบั้ม Freestyle) : FAT AWARDS #2 (พ.ศ. 2547)
  • รางวัลศิลปินยอดนิยม : FAT AWARDS #5 (พ.ศ. 2550)




เพี่ยน